Copyright 2015

 
 

 
 
New Page 1
   ทำเนียบวัตถุมงคลทั้งหมด
   วัตถุมงคลมาใหม่ 
   (ของเก่า ของสะสม) 
   วัตถุมงคลมาใหม่
   (ของใหม่) 
** แนะนำวัตถุมงคล ** 

หมวดครูกายแก้ว

   องค์บูชา
   วัตถุมงคล
   อื่นๆ

วัตถุมงคลโดย อ.สุชาติ รัตนสุข

   เทพเทวะ (องค์บูชา)
   เทพเทวะ (วัตถุมงคล)
   ฤาษี  มหาฤาษี
   เครื่องราง ของขลัง
   เครื่องประดับ
   อื่นๆ

วัตถุมงคลโดย เกจิอาจารย์ชื่อดัง

   พระกริ่ง
   พระกรุ
   ผ้ายันต์
   108 เกจิอาจารย์ดัง ยุคอินโดจีน
   พระแชมป์
   อื่นๆ

วัตถุมงคลโดยเทวสถานอื่นๆ

   อื่นๆ
[เว็บอัพเดทเมื่อ: 4/8/2563]
 
Flag Counter
 
<< ย้อนกลับ
พระกริ่ง หลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง *** พระประกวด ระดับแชมป์
 
รหัสวัตถุมงคล:  S31001 
 

พระภาวนาโกศลเถระหรือหลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง หรือเจ้าคุณเฒ่า เป็นบุตรของนายทอง นางอู่ ตันสกุลทองอู่ในปัจจุบัน ภูมิลำเนาเดิมอยู่คลองบางหว้า ตำบลคุ้งเผาถ่าน อำเภอบางขุนเทียน จังหวัดธนบุรี เกิดวันศุกร์ ขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีมะโรง พ.ศ. ๒๓๗๕ ในสมัยรัชกาลที่ ๓
เมื่ออายุ ๙ ปี มาอยู่วัดหนังศักษาหนังสือไทยในสำนักพระอาจารย์รอด ซึ่งตอนนั้นเป็นพระครูธรรมถิดาญาณ เมื่ออายุ ๑๑ ปี ไปศึกษาพระปริยิติธรรมในสำนักพระมหายิ้ม วัดบวรฯ ต่อมาย้ายไปอยู่สำนักพระปิฎกโกศล (ฉิม) วัดราชบูรณะ บรรพชาเป็นสามเฌรศึกษาพระปริยัติธรรม ณ สำนักวัดหนัง  เมื่ออายุ ๑๙ ปี เข้าแปลพระปริยัติธรรมในสนามหลวงแต่ไม่ได้ จึงลาสิกขากลับอยู่บ้าน  เมื่ออายุได้ ๒๒ ปี อุปสมบทในพัทธสีมา วัดราชโอรส โดยมีพระสุธรรมเถร ต่อมาเป็นพระสุธรรมเทพเถร(เกิด)เป็นพระอุปัชฌาย์ พระธรรมเจดีย์ (จีน) กับพระภาวนาโกศลเถร (รอด) เป็นพระกรรมวาจาจารย์  อุปสมบทแล้วไปอยู่วัดนางนองเรียนวิปัสสนาธุระในสำนักพระภาวนาโกศลเถร (รอด) เรียนดันถธุระในสำนักพระธรรมเจดีย์ (จีน) และพระสังวรวิมล (เหม็น) แห่งวัดราชโอรสต่อมาได้เป็นพระใบฎีกาและพระปลัดในฐานานุกรมของพระภาวนาโกศลเถร (รอด) ตามลำดับ
ในรัชสมัยรัชกาลที่ ๔ พระภาวนาโกศลเถร (รอด) ถูกทางการตำหนิโทษเรืองไม่ถวายอดิเรกในงานเสด็จพระราชทานกฐิน ณ วัดนางนอง ท่านจึงออกจากสมณศักดิ์และย้ายไปอยู่ วัดโคนอน ท่านได้ติดตามพระอาจารย์ไปอยู่วัดโคนอนด้วย
ในปี พ.ศ. ๒๔๕๐ ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๕) มีพระราชดำริจะเสด็จประพาสยุโรปเป็นการเจริญพระราชไมตรีแก่นานาประเทศในทวีปนั้นๆ อันเป็นผลดีเกี่ยวกับความปลอดภัยของสยามประเทศจากการคุกคามของนานาประเทศและทอดพระเนตรกิจการความเจริญในวิทยาการเพื่อนำมาปรับปรุงบ้านเมืองให้เจริญยิ่งขึ้น ก่อนการเสด็จประพาสยุโรปนั้น สมเด็จพระสังฆราชปุสฺสเทโวถวายพระพรแนะนำให้อาราธนาพระอธิการเอี่ยมแห่งวัดโคนอนมาถวายคำพยากรณ์พระชะตาชันษาและพระมงคลพุทธาคมวัตถุคุ้มครองพระองค์ หลวงปู่เอี่ยมได้ถวายพระพรว่า
การเสด็จไปนานานประเทศแดนไกลครั้งนี้ จะทรงบรรลุผลสำเร็จตามพระบรมราโชบายทุกประการ แต่ในโอกาสที่ทรงประทับในประเทศหนึ่งนั้น จะมีผู้นำเอาสัตว์จตุรงคบาทอันมีชาตินิสัยอันดุร้ายมาให้ทรงประทับขี่ แต่พระมหาบพิตรราชสมภรเจ้าจะทรงปลอดภัยจากสัตว์นั้น” จบแล้วหลวงปู่เอี่ยมก็ได้ถวายพระคาถาบทหนึ่งแด่พระองค์คือ

พระคาถามงกุฎพระพุทธเจ้าหรืออิติปิโสเรือนเตี้ย
อิติปิโสวิเสเสอิ  อิเสเสพุทธนาเมอิ
อิเมนาพุทฺธตัโสอิ  อิโสตํพุทฺธปิติอิ

พระภาวนาโกศลเถระหรือหลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง

ในขณะที่ประทับอยู่ในประเทศฝรั่งเศส มีเจ้าชายฝรั่งเศสพระองค์หนึ่งเชิญเสด็จฯ ไปทอดพระเนตรกีฬาโปโลและการขี่ม้าพยศที่สนามกีฬาแห่งหนึ่งทางตอนใต้ของกรุงปารีส ขณะนั้นมีนายโคบาล ๒-๓ คนผลัดกันแสดงการขี่ม้าพยศและมีม้าอยู่ตัวหนึ่งรูปร่างสูงใหญ่มีความดุร้ายมากกว่าม้าในที่นั้น ไม่มีใครคนไหนสามารถบังคับมันได้ เจ้าชายฝรั่งเศสทูลถามเสด็จว่า ม้าพยศอย่างนี้ที่ประเทศสยามมีไหม พระองค์ทรงตอบว่า ก็พอมีอยู่บ้าง และที่เมืองสยามมีคนที่จะพอบังคับม้าพยศอย่างนี้ได้ไหม พระองค์มิทรงตอบอะไร ครั้นทรงนึกถึงคำพยากรณ์ของหลวงปู่เอี่ยม จึงเขยิบพระวรกายลุกขึ้นเสด็จพระราชดำเนินลงจากที่ประทับ ตรัสเรียกนายโคบาลให้จูงม้าพยศตัวนั้นเข้ามาใกล้ๆ ทอดพระเนตรอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงเสด็จพระราชดำเนินอกไปประมาณ ๒-๓ ก้าว ณ กองหญ้ากองหนึ่ง ค้อมพระวรกายลงจับหญ้าขึ้นมากองหนึ่ง ทรงตั้งสัจอธิษฐาน กลั้นพระอัสสาสะพระปัสสาสะบริกรรมพระคาถาของหลวงปู่เอี่ยม แล้วถอยขึ้นมาทรงยื่นให้ม้ากิน พระองค์ทรงขอบังเหียนม้าจากนายโคบาล ยื่นพระหัตถ์ข้างหนึ่งลูบแผงคอ ๓ ครั้ง จากนั้นพระองค์ก็ทรงขึ้นประทับขี่บนหลังม้า แล้วบังคับให้มันเดินย่างเยื้อง วิ่งเต็มฝีเท้าวิ่งเรียบ และวิ่งโขยกไปรอบๆทั่วบริเวณ ประชาชนต่างภาษาที่พากันมาชมกีฬาในวันนั้นต่างโห่ร้องถวายพระพรกัน ครั้นเสด็จนิวิติถึงกรุงเทพฯ แล้วพระองค์ก็ได้ถวายสักการะแด่หลวงปู่เอี่ยม ตรัสเล่าเรื่องต่างแดนให้ฟัง พร้อมกับพระราชทานนาฬิกาและของที่ระลึกต่างๆ

ในปีนี้เอง ตามบันทึกแห่งหอจดหมายเหตุแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ วันที่ ๒๗ สิงหาคม เวลา ๑๕.๓๐ น. พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า เจ้าอยู่หัวเสด็จไปรเวตพร้อมด้วยเจ้านายหลายพระองค์เสด็จประทับทอดพระเนตรวัดหนังด้วย พอเสด็จพระราชดำเนินขึ้นสู่สถานฉนวนน้ำก็รับสั่งชมเชยว่า ช่อฟ้าเขายกขึ้นแล้ว สมภารวัดโดนานทำวัดเก่งมาก เมื่อเสด็จถึงศาลาซุ้มประตูกำแพงแก้ว ทอดพระเนตรเห็นกาฬหลวิชัยคาวีที่ผนังศาลาเศร้าหมองชำรุดมาก จึงรับสั่งสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัติวงศ์ให้เขียนภาพนั้นใหม่เหมือนของเก่า ครั้งเสด็จเข้าสู่พระอุโบสถ ทอดพระเนตรเห็นพื้นพระอุโบสถปูหินอ่อนใหม่ ออกพระโอษฐ์ตรัสชมอีกว่า พื้นอุโบสถปูหินแล้ว รับสั่งให้อาราธนาหลวงปู่ลงไปเฝ้ารับสั่งปราศรัยโดยสมควรแก่เวลาแล้ว ทรงถ่ายรูปหลวงปู่ด้วยฝีพระหัตถ์ ในการเสด็จประพาส วัดหนังครั้งนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานมูลค่าภัตตาหารแด่ หลวงปู่ ๒๐๐ บาท แด่พระสงฆ์วัดหนังทั้งหมดรูปละ ๑ บาท
นับตั้งแต่หลวงปู่ได้มาอยู่วัดหนัง ท่านได้บูรณปฎิสังขรณ์พระอารามวัดหนังที่ชำรุดทรุดโทรมให้คืนสู่ปกติ มีความักน้อยในปัจจัยลาภได้มาก็บริจาคซ่อมแซมบูรณปฎิสังขรณ์ปูชนียสถานเสนาสนะในพระอารามสละเป็นเครื่องอุปโภคให้แก่พระเณร ในกุฎิของท่าน มองหาวัตถุมีค่าเป็นชิ้นเป็นอันมิใคร่พบ ท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดหนังได้ ๒๗ ปีเศษ จนมีอายุได้ ๙๔ ปี มรณภาพด้วยโรคชราโดยอาการอันสงบ ณ วันที่ ๒๖ เมษายน พ.ศ. ๒๔๖๙ ตรงกับวันจันทร์ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ ปีขาล

 
 
 
Copyright 2015
 
 

หน้าแรก | เกี่ยวกับเรา | ทำเนียบวัตถุมงคล|คณะโหราจารย์ | คณะที่ปรึกษา | ดูดวงสด | คลิปรายการ | เรื่องเล่าจาก อ.สุชาติ | บทความทั่วไป | ติดต่อเรา

เริ่มเผยแพร่ตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคม 2558

 เว็บนี้จัดทำโดยทีมงานครูกายแก้ว.com  (โดยได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการจาก อ. สุชาติ รัตนสุข)