คาถาพระปัจเจกพุทธเจ้า หลวงพ่อปานได้เรียนคาถาพระปัจเจกพุทธเจ้า เมื่อช่วงตอนปลายของชีวิต คาถาพระปัจเจกพุทธเจ้านี้ ท่านไปเรียนกับ ครูพึ่ง ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ตอนนั้น ครูพึ่ง เป็นฆาวาส อายุ 99 ปี เพราะได้ข่าวว่าครูผึ้งเป็นคนพิเศษ เวลาขอทานมาขอให้คนละ 1 บาท สมัยนั้นเงิน 1 บาท มีค่ามาก เงิน 100 บาท 200 บาท สามารถสร้างบ้านได้ 2 หลัง มีครัวได้ 1 หลัง เวลาทำบุญแกจะช่วยรายละ 100 บาท ไม่ใช่เงินเล็กน้อย เมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๑ หลวงพ่อปาน พร้อมด้วยคณะ ได้ธุดงค์ไปทุกภาคของประทศไทย ทิศเหนือได้ไปเชียงตุง ทิศตะวันออกไปสุดภาคอีสาน และได้ขออนุญาติข้ามเขต ไปในอินโดจีนของฝรั่งเศสถึงประเทศญวน ทิศใต้ได้ไปถึงปีนังของอังกฤษ ท่านครูพึ่งเล่าประวัติพระคาถา เมื่ออายุท่านได้ประมาณ ๔๐ ปี ได้มีพระธุดงค์ เดินธุดงค์มารูปเดียว ท่านเห็นพระรูปนั้นแล้วรู้สึกเลื่อมใสมาก จึงได้นิมนต์ให้พักอยู่เพื่อบำเพ็ญกุศล ๕ วัน ได้ปฏิบัติท่านอย่างดีเท่าที่จะทำได้ ได้เรียนกรรมฐานจากท่าน ท่านได้สอนให้เป็นอย่างดี เมื่อจะกลับท่านพูดว่า “โยมถ้าต้องการพบฉันให้จุดธูปอาราธนาพระ แล้วอาตมาจะมาพบทางใน" แล้วท่านได้มอบ พระคาถาพระปัจเจกะโพธิ์โปรดสัตว์บทนี้ให้ พร้อมทั้งอธิบายวิธีปฏิบัติ ท่านว่าทำเพียงเท่านี้ พอเลี้ยงตัวรอด เงินทองของใช้ไม่ขาดมือ ถ้าปฏิบัติเป็นกรรมฐานทำให้ถึงฌานแล้วจะร่ำรวย เป็นเศรษฐี โยมเอาพระคาถาบทนี้ภาวนาเป็นกรรมฐานเถิดนะ ไม่เกิน ๒ ปี โยมจะรวยใหญ่ เงินทองจะหลั่งไหลมาเอง พระคาถาบทนี้ของพระปัจเจกพุทธเจ้า ตระกูลอาตมา ได้เรียนสืบต่อกันมาทุกตน ไม่มีใครจน อย่างน้อย ก็พอเลี้ยงตัวรอด” ให้หลวงพ่อปานเรียนพระคาถา เมื่อพูดจบได้มอบพระคาถาให้หลวงพ่อปานเรียน แล้วบอกว่าได้โปรดอย่าปิดบังพระคาถาบทนี้เลย ขอได้กรุณาแจกเป็นธรรมทานด้วย แล้วหลวงพ่อปาน ก็หลับตาเข้าสมาธิ ท่านครูผึ้งก็หลับตาเข้าสมาธิ ต่างคนต่างหลับตาประมาณ ๕ นาที ก็ลืมตาขึ้นพร้อมกัน ต่างคนต่างยิ้ม เสียงท่านครูพึ่งพูดว่า “ผมดีใจด้วย ที่ต่อไปเบื้องหน้าท่านจะได้ศิษย์คู่ใจ” หลวงพ่อก็หัวเราะ หลวงพ่อปานถามว่า ท่านอาจารย์ทำนานไหม จึงจะรู้ผล อาจารย์พึ่งตอบว่า ไม่นานครับ ประมาณเดือนแรกผ่านไป เริ่มรู้ผลระยะแรก ให้ผลในทางกินก่อน เช่นข้าวหุงตามธรรมดา คนกินในบ้านก็กินเท่าเดิม เพิ่มการใส่บาตร แต่ข้าวเหลือ ผมเคยต่อว่าหุงข้าวทำไมหุงมากนัก เขาบอกว่าหุงเท่าเดิน ผมจึงสั่งให้ลดจนเหลือครึ่งจำนวนพอดี เมื่ออาหารเริ่มลดความหมดเปลือง รายได้ก็เพิ่มขึ้น ในระยะ ๑ ปี ผ่านไปเรื่องการเงินเริ่มไหวตัว เงินในที่เก็บเริ่มเกินบัญชี เงินจากร้านค้ารับมานับว่าพอดี พอรุ่งขึ้นมาตรวจนับเงินมากกว่าจำนวนทุกที ดีขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะทำอะไรเป็นเงินเป็นทองไปหมด เดี๋ยวนี้ผมทำอะไรไม่ไหว แต่ผมก็มีรายได้ทุกวัน ใครไปใครมา ขากลับคนนี้ให้บ้างคนนั้นให้บ้าง คิดเฉลี่ยผมมีรายได้วันละประมาณเกือบร้อยบาท พระคาถาบทนี้ศักดิ์สิทธ์มากครับ ทำเป็นกรรมฐาน หลวงพ่อปานได้ถามว่า ท่านอาจารย์ทำอย่างไร อาจารย์พึ่งตอบว่า ผมทำเป็นกรรมฐานเลยครับ ทำจนสว่าง หลับตาลงแล้วเกิดความสว่างขึ้น ได้เห็นพระพุทธรูปบ้าง พระสงฆ์บ้าง มีอยู่องค์หนึ่งครับจีวรสวยมากไม่เหมือนจีวรพระธรรมดา แล้วเริ่มเห็นเงิน คราวแรก ๆ เป็นจำนวนน้อย ๆ ต่อมาก็เห็นจำนวนมากตามลำดับ จนถึงกองใหญ่เหลือที่จะนับ ตอนนี้เองครับ เงินทองไหลมากันใหญ่ทำอะไรนิด ทำอะไรหน่อยก็ดีไปหมด คนอื่นเขาทำขาดทุน ผมลองไปทำบ้างก็มีกำไรดีเสียด้วย คาถาพระปัจเจกพุทธเจ้านี้เรียกว่า คาถาแก้จน ท่านได้เรียนมาและพิมพ์แจกเป็นทานแก่สาธุชน นำไปปฏิบัติและมีผลดีจบสืบทอดกันมาจนทุกวันนี้
พระคาถาพระปัจเจกพุทธเจ้า
(ว่า "นะโม ฯลฯ " ๓ จบ ) พุทธะ มะอะอุ นะโมพุทธายะ วิระทะโย วิระโคนายัง วิระหิงสา วิระทาสี วิระทาสา วิระอิตถิโย พุทธัสสะ มาณี มามะ พุทธัสสะ สวาโหม
|