บทความประวัติพระตรีมูรติ Part 2 (Central world) 25/09/58
‘เอาพระพรหมมาไว้ตรงเหนือเกล้า พระศิวะขึ้นเป็นวงเดือน วรกายเป็นพระวิษณุทรงยืนเหยียบบนยักษ์และลิงฝ่ายละ 8 ตน’
คือเทวลักษณะของพระตรีมูรติในแบบศิลปะอยุธยาเป็นแบบเดียวกับพระตรีมูรติที่ลานหน้า Central world ซึ่งแต่เดิมคือพื้นที่ของวังเพ็ชรบูรณ์ ซึ่งเป็นวังของ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลก กรมขุนเพ็ชรบูรณ์อินทราชัย ราชโอรสของรัชกาลที่ 5 ด้วยความที่พื้นที่ตรงนี้เป็นพื้นที่ของเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน ทำให้มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองปกปักรักษาแผ่นดินอยู่ ทั้งผีหลวงหลาวเหล็ก ทั้งยักษ์และลิง ฝ่ายละ 8 ตน ที่ทำหน้าที่ดูแลเทพทั้ง 8 ทิศ นอกจากนี้ยังมีศาลพระตรีมูรติเดิม อยู่ในรั้ววัง ด้านฝั่งใกล้กับวัดปทุมวนารามอีกด้วย ต่อมาได้มีการปรับปรุงสถานที่เพื่อใช้ประโยชน์ แต่ไม่ได้มีการบอกกล่าว ทำให้กิจการงานต่างๆ ตรงพื้นที่แห่งนี้เกิดความวุ่นวาย ติดขัด เป็นเหตุให้ คุณวิรุฬ เตชะไพบูลย์ ได้มาเชิญท่านอาจารย์สุชาติ รัตนสุขไปทำพิธี ตรงพื้นที่วังเพ็ชรบูรณ์จึงได้มีการบอกกล่าวสถานที่ และสร้างเทพใหม่ทดแทนคืนให้แก่สถานที่นั้น เป็นองค์พระตรีมูรติ เทวลักษณ์ตามแบบศิลปะอยุธยา โดยกำหนดให้ความสูงของพระตรีมูรติอ้างอิงกับพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 นั่นคือบังคับให้องค์ตรีมูรติที่สร้างใหม่นี้สูง 159 ซม. นั่นเอง
ปัจจุบันศาลพระตรีมูรติแห่งนี้ได้กลายเป็นสถานที่ซึ่งมีกระแสแห่งความศรัทธาหลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสาย ผู้คนมากมายทั้งชาวไทยและต่างประเทศแวะเวียนมากราบไหว้ ขอพร ด้วยความเชื่อที่ว่าองค์ตรีมูรติ จะช่วยประทานความสำเร็จในเรื่องของความรักมาให้ โดยส่วนมากนิยมมาสักการะ ขอพรกันในวันพฤหัสบดี ช่วงเช้า เวลา 9.30 น. และช่วงเวลากลางคืน 21.30 น.
โดยมีเครื่องบูชาเป็นธูปแดง 9 ดอก เทียนแดง 1 คู่ ดอกกุหลาบแดง 9 ดอก หรือมาลัยคล้องดอกกุหลาบ 1 พวง หากอยากถวายอย่างอื่นก็จะเป็นจำพวก ผลไม้สีแดง, น้ำผึ้ง, น้ำอ้อย, นมสด และ ของหวาน ห้ามถวายอาหารคาว หากจะให้ดีต้องทำการไหว้องค์พระพิฆเนศก่อน และสิ่งที่สำคัญในการขอพรพระตรีมูรติคือ ต้องตั้งจิตเป็นกุศล ขอในเรื่องที่ดีงาม ถูกต้องทำนองครองธรรม แล้วพรนั้นก็จะสัมฤทธิ์ผลดังที่ใจปรารถนา
|