Copyright 2015

 
 

 
 
New Page 1
   ทำเนียบวัตถุมงคลทั้งหมด
   วัตถุมงคลมาใหม่ 
   (ของเก่า ของสะสม) 
   วัตถุมงคลมาใหม่
   (ของใหม่) 
** แนะนำวัตถุมงคล ** 

หมวดครูกายแก้ว

   องค์บูชา
   วัตถุมงคล
   อื่นๆ

วัตถุมงคลโดย อ.สุชาติ รัตนสุข

   เทพเทวะ (องค์บูชา)
   เทพเทวะ (วัตถุมงคล)
   ฤาษี  มหาฤาษี
   เครื่องราง ของขลัง
   เครื่องประดับ
   อื่นๆ

วัตถุมงคลโดย เกจิอาจารย์ชื่อดัง

   พระกริ่ง
   พระกรุ
   ผ้ายันต์
   108 เกจิอาจารย์ดัง ยุคอินโดจีน
   พระแชมป์
   อื่นๆ

วัตถุมงคลโดยเทวสถานอื่นๆ

   อื่นๆ
[เว็บอัพเดทเมื่อ: 4/8/2563]
 
Flag Counter
 
 

 

ประวัติพระตรีมูรติ

  เมื่อ:  11/4/2015 11:04:27 AM    เปิดอ่าน: 1,680   
 
 
ประวัติพระตรีมูรติ
 

 

บทความประวัติพระตรีมูรติ Part 1 25/09/58

     ในสมัยโบราณเมื่อประมาณ1000 ปีก่อนพุทธกาลศาสนาฮินดูหรือศาสนาพราหมณ์ได้ถือกำเนิดขึ้นโดยชาวอารยัน ได้นำลัทธิพระเวทมาผสมผสานกับคติความเชื่อของคนพื้นเมืองอินเดียโบราณ โดยมีมหาเทพที่ได้รับการเคารพสูงสุดของศาสนาอยู่ด้วยกัน 3 พระองค์ นั่นก็คือพระพรหม ผู้สร้างโลก พระวิษณุ ผู้บำรุงรักษา และพระศิวะ ผู้ทำลาย อีกนัยหนึ่งก็คือการเปรียบเทียบกับหลักธรรมที่ว่า เกิดขึ้น คงอยู่ และดับไป โดยเทวะทั้งสามองค์นี้เมื่อถูกนำมารวมกันแล้วจึงมีนามเรียกว่าพระตรีมูรติหรือเทพทัตตาเตรยะ ที่แปลได้ว่า ผู้เป็นบุตรของฤาษีเตรยะหรืออัตริ ฤาษีผู้มีภรรยาที่ซื่อสัตย์และจงรักภักดีจนเป็นที่ประจักษ์แก่สามเทพพระองค์จึงประทานพรตามคำขอของนางอนุสูยา ด้วยการอวตารมาเป็นบุตรของนางและสามี

     นอกจากนี้ยังมีเรื่องราวความเชื่อและตำนานอีกมากมายเกี่ยวกับการกำเนิดของพระตรีมูรติแตกต่างกันไปในรายละเอียด แต่ทุกตำนานกลับมีจุดเชื่อมเดียวกันได้อย่างน่าประหลาดใจนั่นก็คือความรักอันยิ่งใหญ่ของสตรีเพศ ที่แสดงออกถึงความภักดีของภรรยาที่พึงมีต่อสามี นั่นก็อาจเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมพระตรีมูรติจึงได้รับการเทิดทูนให้กลายเป็นสัญลักษณ์ใหม่ของการประทานความรักและความสมหวังให้มวลมนุษย์ตราบเท่าจนทุกวันนี้ และจากตำนานดังกล่าวที่เล่าขานกันมาของบรรพชนอินเดีย ก็ส่งผลให้รูปเคารพของพระตรีมูรติตามแบบของศาสนาฮินดูออกมาในรูปลักษณ์ของนักบวชที่มี 3 เศียร มีเศียรกลางเป็นพระพรหม เศียรขวาและองค์เป็นพระวิษณุ เศียรซ้ายและยอดเป็นพระศิวะมีเศียรกลางเป็นพรหม เศียรขวาและองค์เป็นวิษณุ เศียรซ้ายและยอดเป็นศิวะ โดยมีสัญลักษณ์ของทั้งสามเทพปรากฎอยู่ เช่นของวิเศษที่ทรงถือ ตรีศูลของพระศิวะ คนโฑของพระพรหม สังข์และตะบองของพระวิษณุ เป็นต้น

     ความศรัทธาที่มีต่อพระตรีมูรติได้รับการสืบทอดต่อกันมาหลายยุคหลายสมัย แพร่กระจายไปยังหลากหลายดินแดน รวมถึงในประเทศไทยของเราด้วยเช่นกันที่มีการสร้างพระตรีมูรติขึ้นเพื่อกราบไหว้บูชา โดยยึดตามแบบศิลปะของเขมร เป็นรูปแบบการสร้างจากสมัยอยุธยาในรัชสมัยของพระเจ้าไชยราชา เศียรบนแทนพระศิวะ เศียรล่างแทนพระพรหม พระวรกายสี่กรแทนพระวิษณุจากเดิมตามแบบของศาสนาฮินดูทรงอาวุธ ก็ปลดอาวุธออกจากพระหัตถ์เปลี่ยนเป็นปางประทานพรแทนทรงยืนเหยียบบนยักษ์และลิงฝ่ายละ 8 ตน แทนผู้ดูแลเทพทั้ง 8 ทิศ ซึ่งรูปลักษณ์นี้แตกต่างจากศาสนาฮินดูโดยสิ้นเชิง

 

 

บทความประวัติพระตรีมูรติ Part 2 (Central world) 25/09/58

‘เอาพระพรหมมาไว้ตรงเหนือเกล้า พระศิวะขึ้นเป็นวงเดือน วรกายเป็นพระวิษณุทรงยืนเหยียบบนยักษ์และลิงฝ่ายละ 8 ตน’

คือเทวลักษณะของพระตรีมูรติในแบบศิลปะอยุธยาเป็นแบบเดียวกับพระตรีมูรติที่ลานหน้า Central world ซึ่งแต่เดิมคือพื้นที่ของวังเพ็ชรบูรณ์ ซึ่งเป็นวังของ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลก กรมขุนเพ็ชรบูรณ์อินทราชัย ราชโอรสของรัชกาลที่ 5 ด้วยความที่พื้นที่ตรงนี้เป็นพื้นที่ของเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน ทำให้มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองปกปักรักษาแผ่นดินอยู่ ทั้งผีหลวงหลาวเหล็ก ทั้งยักษ์และลิง ฝ่ายละ 8 ตน ที่ทำหน้าที่ดูแลเทพทั้ง 8 ทิศ นอกจากนี้ยังมีศาลพระตรีมูรติเดิม อยู่ในรั้ววัง ด้านฝั่งใกล้กับวัดปทุมวนารามอีกด้วย ต่อมาได้มีการปรับปรุงสถานที่เพื่อใช้ประโยชน์ แต่ไม่ได้มีการบอกกล่าว ทำให้กิจการงานต่างๆ ตรงพื้นที่แห่งนี้เกิดความวุ่นวาย ติดขัด เป็นเหตุให้ คุณวิรุฬ เตชะไพบูลย์ ได้มาเชิญท่านอาจารย์สุชาติ รัตนสุขไปทำพิธี ตรงพื้นที่วังเพ็ชรบูรณ์จึงได้มีการบอกกล่าวสถานที่ และสร้างเทพใหม่ทดแทนคืนให้แก่สถานที่นั้น เป็นองค์พระตรีมูรติ เทวลักษณ์ตามแบบศิลปะอยุธยา โดยกำหนดให้ความสูงของพระตรีมูรติอ้างอิงกับพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 นั่นคือบังคับให้องค์ตรีมูรติที่สร้างใหม่นี้สูง 159 ซม. นั่นเอง

ปัจจุบันศาลพระตรีมูรติแห่งนี้ได้กลายเป็นสถานที่ซึ่งมีกระแสแห่งความศรัทธาหลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสาย ผู้คนมากมายทั้งชาวไทยและต่างประเทศแวะเวียนมากราบไหว้ ขอพร ด้วยความเชื่อที่ว่าองค์ตรีมูรติ จะช่วยประทานความสำเร็จในเรื่องของความรักมาให้ โดยส่วนมากนิยมมาสักการะ ขอพรกันในวันพฤหัสบดี ช่วงเช้า เวลา 9.30 น. และช่วงเวลากลางคืน 21.30 น.

โดยมีเครื่องบูชาเป็นธูปแดง 9 ดอก เทียนแดง 1 คู่ ดอกกุหลาบแดง 9 ดอก หรือมาลัยคล้องดอกกุหลาบ 1 พวง หากอยากถวายอย่างอื่นก็จะเป็นจำพวก ผลไม้สีแดง, น้ำผึ้ง, น้ำอ้อย, นมสด และ ของหวาน ห้ามถวายอาหารคาว หากจะให้ดีต้องทำการไหว้องค์พระพิฆเนศก่อน และสิ่งที่สำคัญในการขอพรพระตรีมูรติคือ ต้องตั้งจิตเป็นกุศล ขอในเรื่องที่ดีงาม ถูกต้องทำนองครองธรรม แล้วพรนั้นก็จะสัมฤทธิ์ผลดังที่ใจปรารถนา

 
พระตรีมูรติ  ประวัติ 

 
 
Copyright 2015
 
 

หน้าแรก | เกี่ยวกับเรา | ทำเนียบวัตถุมงคล|คณะโหราจารย์ | คณะที่ปรึกษา | ดูดวงสด | คลิปรายการ | เรื่องเล่าจาก อ.สุชาติ | บทความทั่วไป | ติดต่อเรา

เริ่มเผยแพร่ตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคม 2558

 เว็บนี้จัดทำโดยทีมงานครูกายแก้ว.com  (โดยได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการจาก อ. สุชาติ รัตนสุข)