อ.ลักษณ์ เปิดกรุของดีมูลค่ากว่า 20 ล้านให้ชมเป็นบุญตา
เปิดกรุของดี “อ.ลักษณ์” มูลค่าไม่ต่ำกว่า 20 ล้าน พร้อมโชว์ “พระมหาสังข์” เวียนขวา ของมงคลล้ำค่าที่เคยช่วยให้เจ้าตัวรอดพ้นจากความเดือดร้อนจากการขึ้นเวทีเสื้อแดง พร้อมฟันธงอีก 6 ปี ตนจะตาย ตอนนี้ทำโกศรอแล้ว เผยสร้างพระ 9 วัดไว้ทั่วประเทศ บอกหาเงินได้เท่าไหร่ทำบุญหมด จนมีเงินสดในธนาคารแค่ 3 แสน เอาไว้ทำศพตัวเอง ยกมือท่วมหัวตั้งจิตอธิษฐาน ขอให้ชาติหน้าได้สมบัติคนรวยที่ไม่คิดจะทำบุญ
เป็นหมอดูแถวหน้าที่ออกมาฟันธงทีไรจะต้องมีเรื่องให้ฮือฮาทุกที แต่พักหลัง “อ.ลักษณ์ เรขานิเทศ” กลับหายไปจากพื้นที่ข่าว ไม่ค่อยออกมาฟันธงดวงดารา และการเมืองเหมือนเมื่อก่อน ทำเอาวงการขาดสีสัน เห็นแต่ข่าว อ.ลักษณ์ ตระเวนไปทำบุญสร้างวัดในจังหวัดต่างๆ แต่อย่างว่า สมัยนี้ทำบุญอย่างเดียวคงไม่พอ ต้องมีตัวช่วยอย่างพวกเครื่องรางของขลังด้วยมันถึงจะเอาอยู่ เช่นเดียวกับ อ.ลักษณ์ ที่นอกจากจะสะสมบุญแล้ว เจ้าตัวยังสะสมของขลังอีกเพียบ มูลค่าไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท แต่ละชิ้นมีประวัติไม่ธรรมดา บางชิ้นใช่ว่ามีเงินแล้วจะได้ครอบครอง ของบางอย่างเป็นของมงคล อย่าง “พระมหาสังข์” ของรักสุดหวงของเจ้าตัว ถ้ายังจำกันได้กับเหตุการณ์ที่อาจารย์ฟันธงไปขึ้นเวทีเสื้อแดง ทำเอาชีวิตเกือบล่มสลาย เพราะได้รับผลกระทบอย่างหนัก แต่เพราะอภินิหารของสังข์อันนี้จึงทำให้ผ่านเรื่องร้ายๆ มาได้ ของดีขนาดนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ อ.ลักษณ์ จะเปิดเผยง่ายๆ แต่วันนี้เจ้าตัวยินดีให้เราเปิดกรุสมบัติล้ำค่านี้พร้อมบุกห้องนอนส่วนตัวแบบ Exclusive จริงๆ เปิดกรุของดีมูลค่ากว่า 20 ล้าน
“เราเป็นคนชอบทำบุญ ย้อนไปปี 2550 ไปทำบุญกับพระประเทือง วัดบ้านเด่น จ.เชียงใหม่ ก็ไม่ได้ทำเยอะนะ ทำไม่กี่พันบาท แล้วท่านก็ทักมาว่าทำไมหน้าตามีความทุกข์จัง ตอนนั้นเราก็เป็นหนี้จตุคามตั้ง 60 กว่าล้าน แล้วท่านก็ให้พระมาองค์นึง ซึ่งองค์นั้นหล่อจากเงินประมาณ 5 กิโลฯ แล้วก็ทองคำ 10 บาท เรียกว่าพระเจ้าเงินทอง จากนี้จะได้มีแต่เงินแต่ทองไม่ลำบาก ก็เริ่มมาจากตรงนั้น แต่จริงๆ ไม่ใช่การสะสมหรอก เก็บเพราะความชอบมากกว่า”
“จากนั้นก็ได้ไม้เท้าประจำตัวของครูบาเทือง เดิมทีเดียวคือไม้เกลี้ยงๆ อันหนึ่ง แล้วท่านก็ไปให้กรมศิลป์แกะไม้ออกมาลงรักปิดทอง แล้วเอาทองคำมาคุ้มตรงหัวประมาณ 5-6 บาท แล้วก็ฝังเพชรเม็ดหนึ่ง แล้วตรงนี้ก็ทำเป็นทองคำแท้ มีทั้งเงิน ทอง เพชร จากนี้ไปเวลาอ่อนแอ ท้อถอย ท้อแท้ก็มาจับ แล้วครูบาจะช่วยเอาบุญค้ำช่วยไว้” “ที่กรวดน้ำครูบาเทืองก็เป็นคนให้ ท่านก็บอกว่า คุณลักษณ์ทำบุญใหญ่ ทำบุญให้เจ้าฟ้า เจ้าแผ่นดิน จากนี้ไปเวลาไปกรวดน้ำ ครูบาไม่มีโอกาสไปร่วมบุญ เพราะฉะนั้นเวลาไปทำบุญให้เจ้า ให้นาย ให้คนมียศมีศักดิ์ ให้ใช้ที่กรวดน้ำแบบนี้ แล้วก็หลั่งกรวดน้ำ”
“แล้วก็ได้พระสมเด็จ ใครจะคิดว่าพระสมเด็จองค์ละ 3-4 ล้าน เราก็ได้มา ตอนนั้นอยากได้พระองค์หนึ่งมาก คือจะเป็นสมเด็จบางขุนพรหม หรือสมเด็จวัดระฆัง ก็ได้ แล้ว พี่วสันต์ โพธิพิมพานนท์ ประธานเบนซ์ทองหล่อ เขาเห็นเราอยากได้พระสมเด็จ อาจารย์ซื้อรถเบนซ์กับแกก็ร่วมๆ 40 กว่าล้านมั้ง แกก็เลยบอกว่าให้เป็นพระของขวัญ”
“แล้วองค์นี้ก็เคยไปอยู่กับ คุณสมัคร สุนทรเวช คือ เมื่อสมัยคุณสมัครเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชาชน แข่งกับพรรคประชาธิปัตย์ ด้วยความเคารพนับถือเป็นการส่วนตัว จึงเอาพระองค์นี้ไปให้กับมือ หากคุณเป็นคนดีอยากทำเพื่อชาติบ้านเมืองให้พระเป็นกำลังให้คุณ ทำความดีและขอให้ได้ตำแหน่งนายกฯ พอท่านได้เป็นนายกฯท่านก็คืนพระองค์นี้มา เป็นนายกฯไม่นานแกก็สิ้น แต่ก็มันชี้วัดอีกอย่างนึงว่าแกเป็นคนมีคุณธรรมเหมือนกัน ของมีค่าแบบนี้จะเก็บไว้ก็ได้ใช่มั้ย”
“โกศใส่กระดูกคนตาย ก็มีโกศของปู่กับย่าตาย แล้วก็ของพ่อของแม่ ทำจากไม้สักทอง ราคาเกือบแสน ตั้งไว้หัวนอนเลยให้นึกถึงว่าต้องทำดีกับพ่อแม่ โกศของตัวเองก็ทำไว้แล้ว สั่งทำเป็นเงินบริสุทธิ์เกือบ 1 กิโลฯ ราคา 180,000 บาท อาจารย์คิดว่ามันเป็นเครื่องเตือนจิตเตือนใจว่าสุดท้ายเราก็มาอยู่ในนี้ เป็นกระดูก อาจารย์เก็บโกศพวกนี้ไว้บนหัวเตียงนอนเลย ก่อนนอนดูทุกวัน ต่อไปก็ได้อยู่ในนี้แล้วก็ทำบุญ”
นอกจากนี้ ยังมีของดีที่พกติดตัว กันภูตผี เทวดาคิดร้าย
“อาจารย์เรียนวิชาเวทมนต์คาถา คนที่มีของมีวิชาต้องมีของ 4 อย่าง คือ เขี้ยว ก็เขี้ยวหมูตัน งา ก็พวกงาช้าง ด้ามงาช้าง กะลา เขาสัตว์ ก็พวกเขาควายเขาวัว เบี้ยแก้ เขี้ยวหมูตัน คือถ้าจะมีวิชาก็ต้องมีของแบบนี้คุ้มตัว แต่อาจารย์ไม่ได้เล่นมนต์ดำนะ อาจารย์เล่นมนต์ขาว มนต์ขาวคู่กับเมตตามหานิยม ที่ทำให้เกิดความสุข ความเจริญ ไม่มีพวกเสน่ห์ยาแฝด”
“ที่พกติตัวอีกก็มีดหมอถมทองปลอกงาช้าง อันนี้ อาจารย์สุชาติ รัตนสุข ซึ่งเป็นคนสร้างพระตีมูรติได้มอบอันนี้ไว้ให้ บอกว่า เจ้านายชั้นสูง รัชกาลที่ 6 พระราชทานให้ แล้วก็ตะกรุด 4 มหาอำนาจ เป็นของหลวงปู่เทียมวัดกษัตรา ใครมีไว้ 4 มหาอำนาจนี้ก็จะป้องกันทั้งผี อมนุษย์ คนร้าย และเทวดาคิดร้าย อันนี้อาจารย์สุชาติ ท่านก็มอบให้ ส่วนประคำทองคำ อันนี้ซื้อมา 2 แสน”
“ที่ติดตัวตลอดก็จะมีพระกริ่งบรมครูเป็นเนื้อนวโลหะ อีกอันเป็นพระกริ่ง 7 รอบในหลวงที่ท่านเททองที่วัดบวรฯ ที่ท่านทรงผนวช อันนี้นานแล้วปี 2499 นี่ก็องค์ละ 4-5 แสน แล้วก็กำไลพญานาค อันนี้ทำจากทองคำหนัก 12 บาท รวมค่าจ้างช่าง ค่าแกะเป็นพญานาค ทั้งหมด 7 แสน นอกจากนี้ ก็จะมีนาฬิกาเฉลิมฉลอง 80 ปีในหลวง ราคาเรือนละล้าน”
“พระมหาสังข์ 2 ขอน คือ พระสมบัติของพระองค์ชายใหญ่ ก็คือ พระองค์เจ้าภาณุพันธ์ยุคล ที่มีการขายเปลี่ยนมือมา เป็นที่สรงพระพักตร์ สังข์นี่จะมีเวียนขวากับเวียนซ้าย สังข์เวียนขวาล้านอันจะมีอันเดียวที่เป็นแบบนี้ ความพิเศษก็คือว่าเป็นสังข์มหามงคล อันนี้ซื้อมาเลยราคา 1.2 ล้าน รวมเครื่องประกอบด้วยก็เกือบ 2 ล้าน”
เจออภินิหารพระมหาสังข์มากับตัว ตอนขึ้นเวทีเสื้อแดง จากที่ชีวิตเกือบล่มสลาย กลับพลิกร้ายเป็นดี “ตอนที่เราไปขึ้นเวทีเสื้อแดง ชีวิตมันน่าล่มสลายไปกับการที่เราไปแสดงความคิดความเห็นในทางการเมืองตอนนั้นแล้ว เหมือนอารมณ์พาไปเหมือนมีส่วนร่วม จากนั้นอาจารย์ได้สังข์มาแล้วสังข์ก็มาสลายเรื่องราวต่างๆ ไปได้อย่างรวดเร็ว ตอนนั้นอาจารย์เจอรุนแรงมาก หนึ่งเลยคือเราถูกปลดโฆษณาออก สองงานที่เคยออกงานบรรยายชั่วโมงละแสนสองแสน หายไปเกลี้ยงไม่มีซักงานเดียว สามคือกำลังจะถูกออกหมาย แต่มีพระคุณเจ้าไปชี้แจงแถลงไขถึงความบริสุทธิ์ถึงจิตใจของเราบางประการแล้วก็เลยระงับการออกหมายจับคือออกหมายจับ เพราะเขาประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แล้วเราไปขึ้นเวทีหลังจาก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ต่อมาเราถูกตรวจสอบบริษัทในเครือทั้งหมดอย่างหนักหน่วง”
“ไปนั่งรับประทานอาหารในร้านอาหาร โดนด่า ไอ้สัตว์ ไอ้เหี้ย พวกไอ้ทักษิณ ไอ้บัดซบ แล้วก็โดนด่าเหี้ยตลอดเวลา แล้วก็มีสองกลุ่มจะตีกัน อีกกลุ่มก็ว่า เฮ้ยมึงมาจาบจ้วงล่วงเกินอาจารย์นะ อีกฝั่งนึงเค้าก็มาปกป้องเรา เดี๋ยวยิงแม่งเลย เคยมีคนจะยิงกันเพราะเราด้วย ตอนนั้นมันรุนแรงมาก”
“ในตำนานสังข์ คือ สังข์เวียนขวาจะเลือกผู้ครอบครอง ไม่ใช่ว่ามีเงิน 10 ล้าน 100 ล้านก็มีได้ แม้ไม่มีเงินเดี๋ยวก็จะมีได้ แต่เมื่อได้มาแล้วเกิดอัศจรรย์หลายอย่าง หนึ่งคืองานต่างๆ ดีขึ้น ดีในหลายๆ อย่าง ดีมากจนหนี้สินจตุคาม 60 ล้านบาท หมดแล้ว สองมีกำลังใจจะมีเหตุเภทภัยอะไรตั้งสติได้ แล้วคิดเป็นมงคล”
“เจ้าคุณธงชัยวัดไตรมิตรฯก็มีสังข์ แต่ท่านก็จะมีสังข์เวียนซ้าย คนแรกที่ผมพาไปให้เจ้าคุณธงชัยทำ แล้วรดน้ำสังข์ให้เป็นสิริมงคล ก็คือ คุณขวัญ อุษามณี คนที่สองที่พาไป คือ เมจิ พิมพ์อักษิพร แล้วปีนั้นเมจิก็มีละคร 8 เรื่องพร้อมกัน จากไม่มีละคร ขวัญ อุษามณี ที่ไม่มีโฆษณา ได้ค่าโฆษณาของมิสทิน 3 ล้าน”
คนที่สะสมพระมหาสังข์ในประเทศไทย มีแต่ระดับบิ๊กทั้งนั้น “คนที่สะสมสังข์ในประเทศไทยมี พล.ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์ แล้วก็ เสี่ยหนู ชาญวีรกุล นักการเมือง คุณธนินท์ เจียรวนนท์ ส่วนคนที่มีสังข์เยอะมากที่สุด คือ คุณเจริญ สิริวัฒนภักดี มีสังข์เวียนขวาเยอะที่สุด ซื้อสังข์เป็น 100 ล้านแล้วมั้ง” สร้างพระ 9 วัด ไว้ทั่วประเทศ “ผมขายเบนซ์สปอร์ตเพื่อเอาเงินไปซื้อทองคำเอาไปสร้างพระเศรษฐีนวโกฏิ ไว้ทั่วประเทศ 9 องค์ แล้วเป็นพระที่นำคนเข้าวัด ถามว่าทำไมต้องทำ 9 องค์ 9 ที่ ผมมีเหตุผลที่ทำไมไปทำที่ วัดสระเกศภูเขาทอง เพราะเราบวชเรียนวัดสระเกศ ไปสร้างที่วัดบ้านเด่น จ.เชียงใหม่ เพราะครูบาเทืองเป็นคนมอบพระให้เรา ไปสร้างที่วัดศาลาลอย เพราะวัดศาลาลอย ที่นครราชสีมา เพราะวัดนั้นย่าโม คือ วีรสตรีของแผ่นดิน ท่านสร้างวัดนั้นไว้เผาทหารที่ร่วมรบและเอากระดูกไว้ที่นั่นพอท่านเสียกระดูกย่าโมก็อยู่ที่นั่น ไปสร้างที่วัดคลองวาฬ เพราะคลองวาฬคือประตูสู่ภาคใต้ ทำไมไม่ไปไกลกว่านั้น มันอันตราย นราธิวาส ปัตตานี ก็กลัวว่าไม่ทันสร้างพระกลัวจะตายเสียก่อน เจ้าอาวาสวัดคลองวาฬ อาจารย์เอียด เป็นพระยอดกตัญญู ท่านเป็นอาจารย์เรา” “ไปสร้างวัดแคที่สุพรรณบุรี เพราะเราทำบุญกับวัดนี้มาตลอด ตั้งแต่ทำบุญให้กับเด็กที่ถูกทำแท้ง ไปสร้างที่วัดป่าธรรมโสภณ ลพบุรี เพราะอาจารย์เราอยู่ที่นั่น ทำไมไปสร้างที่วัดทรงธรรม เพราะที่นั่นมีมอญ มีรามัญที่ช่วยพระนเรศวรฯรบ ไปอยู่ที่เมืองพระประแดงไปสร้างให้คนมอญ ทำไมสร้างที่วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขนก็เพราะว่าเราไปใช้ที่เขาหล่อพระ แล้วจะไม่หล่อให้เขาสักองค์หรือ ทำไมเราไปสร้างที่วัดพระศรีมหาธาตุ เมืองสุโขทัย ก็เป็นเมืองแห่งพ่อขุนรามคำแหง ผู้ให้กำเนิดอักษรไทย คือมันมีเหตุผลทั้งหมดเลยไง”
ไม่น่าเชื่อ เป็นหมอดูที่ดังที่สุด และมีค่าตัวแพงที่สุดคนหนึ่งในประเทศไทย แต่ตอนนี้ อ.ลักษณ์ มีเงินสดในธนาคารแค่ 3 แสน “อาจารย์กล้าพูดได้เลยมีเงินเท่าไหร่ทำบุญหมด มี 100 ล้าน ก็ทำบุญ 100 ล้าน ไม่มีเงินเหลือเก็บ มีเงินสดอยู่ในบัญชี 2 แสนกว่าบาท ไม่เกิน 3 แสน เอาไว้ทำศพคิดแค่นั้นเอง จริงๆ ไม่มีอะไรซุกซ่อน ใช้หนี้หมดแล้ว หรือแปลงเป็นทรัพย์สิน ไม่มีที่ดิน รถยนต์ก็เป็นหนี้แบบผ่อนรายเดือน พอครบ 4-5 ปี ก็วางเงินอีกก้อนเอารถใหม่มาใช้ ไม่มีอะไรเป็นของตัวเองทั้งสิ้น ได้เงินมาเท่าไหร่ทำบุญหมด”
ยกมือท่วมหัวตั้งจิตอธิษฐาน ขอให้ชาติหน้าได้สมบัติคนรวยที่ไม่คิดจะทำบุญ “เวลาทำบุญผมจะอธิษฐานเลย หากชาตินี้มหาเศรษฐีในแผ่นดินนี้ รวยแล้วไม่ทำบุญ รวยแล้วสะสมเงินสะสมที่ดิน บ้าบอ ปัญญาอ่อน ชาติหน้าจงอย่ารวยเลย ความรวยนั้นจงมาเป็นของผม และขอให้ผมจงได้ทำบุญมากๆ ไม่ใช่เอาเศษเงินไปทำบุญ เดี๋ยวนี้เศรษฐีในประเทศนี้ส่วนมากทำบุญไปตัดภาษี เหลือเท่าไหร่เอาไปทำบุญ แล้วอาจารย์ก็หมั่นไส้เศรษฐีในประเทศนี้หลายคนที่สะสมแต่ความรวย ประกาศกันนักเป็นเศรษฐีคนที่เท่านั้นเท่านี้ของประเทศ ที่ของคนนี้ เงินนี้เงินของคนนั้น ไม่มีหรอกวัดของคนๆ นั้น โรงพยาบาลนี้เขาสร้าง หมอดูอีทียังสร้างเลย ใครสร้างก็จะอนุโมทนา ดาราของฮ่องกงก็สร้าง เห็นแล้วมันเดือดดาลน่ะ ที่มีเงินแล้วทำไมไม่ทำ มีไปทำไม”
นับถอยหลังอีก 6 ปีจะตาย ฟันธง!!
“อาจารย์เคยดูดวงตัวเองว่าจะตายตอนอายุ 48 ตอนนี้ย่าง 42 อีก 6 ปี มันใกล้ มากเลยล่ะ คล้ายว่านับถอยหลัง เลยทำบุญเยอะมากขึ้นเรื่อยๆ หนักหน่วงมากเลยหลังๆ มานี้ วันนี้ถ้าสมมติตาย ก็พร้อมเลย ผมตายนะ โอ้ โบสถ์วัดสระเกศ วัดศาลาลอย โบสถ์วัดบัวขวัญผมก็สร้างใกล้เสร็จแล้ว โอ้ ชีวิตมีความสุขมากเลย มีที่ไปแน่นอน”
“ส่วนของสะสมเหล่านี้ ถ้าอาจารย์ตายจะทำพินัยกรรมถวายเข้าสู่วัง หรืออาจจะต้องเอาไว้ในพิพิธภัณฑ์ คือ บอกตรงๆ ว่า ลูกโดยเปิดเผย หรือมาสืบต่อสมบัตินั้นไม่มี แล้วสมบัติแบบนี้คงไม่ให้ เพราะมันเป็นของมีค่า ต้องเป็นของชาติเท่านั้น”
นอกจาก อ.ลักษณ์ จะใจดีให้เราชมของสะสมมูลค่ามหาศาลเป็นบุญตาแล้ว ยังยอมให้บุกห้องนอนส่วนตัว บอกได้คำเดียวว่าเซอร์ไพรส์ ใครจะไปคิดว่ามาดดุดันโผงผาง เล่นของสารพัด แถมมีเครื่องรางของขลังติดตัวเป็นพวงๆ จะนอนเตียงโดเรมอน แถมของใช้อื่นๆ ก็ยังเป็นลายโดเรมอน คิกขุขัดกับภาพที่เห็นสุดๆ…
|
